การเปิดเข้าใช้อาคารประเภทควบคุมการใช้ ตาม พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร

อาคารประเภทควบคุมการใช้ ตามพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ.2522 มีบทบัญญัติอันเป็นเงื่อนไขเกี่ยวกับการเข้าใช้อาคารประเภทควบคุมการใช้ภายหลังได้รับใบอนุญาตก่อสร้าง ดัดแปลง หรือเคลื่อนย้ายอาคาร หรือแจ้งตามมาตรา 39ทวิ และมีดำเนินการก่อสร้าง ดัดแปลง หรือเคลื่อนย้ายอาคารแล้วเสร็จ โดยจะต้องแจ้งเป็นหนังสือให้เจ้าพนักงานท้องถิ่นทราบเพื่อทำการตรวจสอบการก่อสร้าง ดัดแปลง หรือเคลื่อนย้ายอาคาร ว่าเป็นไปตามที่ได้รับใบอนุญาตหรือที่ได้แจ้งไว้ตามมาตรา 39ทวิ หรือไม่ ซึ่งเจ้าพนักงานท้องถิ่นมีหน้าที่ตรวจสอบและออกใบรับรองเพื่อให้มีการใช้อาคารภายใน 30 วัน นับแต่วันที่ได้รับแจ้ง และภายในระยะเวลาดังกล่าวห้ามไม่บุคคลใดใช้อาคารเพื่อกิจการตามที่ระบุไว้ในใบอนุญาตหรือที่ได้แจ้งไว้ตามมาตรา 39ทวิ หากเจ้าพนักงานท้องถิ่นไม่ได้ทำการตรวจสอบอาคารภายใน 30 วัน นับแต่วันที่ได้รับแจ้ง เจ้าของหรือผู้ครอบครองอาคารนั้นมีสิทธิใช้หรือยินยอมให้บุคคลใดใช้อาคารเพื่อกิจการตามที่ระบุไว้ในใบอนุญาตหรือที่ได้แจ้งไว้ตามมาตรา 39ทวิ ได้

โดยหากเจ้าพนักงานท้องถิ่นตรวจสอบอาคารดังกล่าวและปรากฏว่ามีการดำเนินการก่อสร้างไม่ถูกต้องตามที่ได้รับใบอนุญาตหรือที่ได้แจ้งไว้ตามมาตรา 39ทวิ เจ้าพนักงานท้องถิ่นมีอำนาจสั่งให้เจ้าของหรือผู้ครอบครองอาคารดำเนินการแก้ไขให้ถูกต้องตรงตามที่ได้รับใบอนุญาตหรือที่ได้แจ้งไว้ตามมาตรา 39ทวิ ต่อไป และห้ามไม่ให้เจ้าของหรือผู้ครอบครองอาคารประเภทควบคุมการใช้ ใช้หรือยินยอมให้บุคคลใดใช้อาคารดังกล่าวเพื่อกิจการอื่นนอกจากที่ระบุไว้ในใบอนุญาตหรือที่ได้แจ้งไว้ตามมาตรา 39ทวิ เว้นแต่จะได้รับใบอนุญาตเปลี่ยนการใช้อาคารจากเจ้าพนักงานท้องถิ่นหรือได้แจ้งเปลี่ยนการใช้อาคารให้เจ้าพนักงานท้องถิ่นทราบแล้ว

อาคารประเภทควบคุมการใช้ มีอาคารประเภทใดบ้าง

1. อาคารสำหรับใช้เป็นคลังสินค้า โรงแรม อาคารชุด หรือสถานพยาบาล ทุกขนาดพื้นที่และความสูงของอาคาร

2. อาคารสำหรับใช้เพื่อกิจการพาณิชยกรรม อุตสาหกรรม การศึกษา การสาธารณสุขหรือกิจการอื่น ตามที่กำหนดในกฎกระทรวง ซึ่งที่บังคับใช้ในปัจจุบันได้แก่ กฎกระทรวงกำหนดอาคารประเภทควบคุมการใช้ พ.ศ.2552 โดยมีรายละเอียดประเภทอาคารดังนี้

  • อาคารสำหรับใช้เพื่อกิจการพาณิชยกรรม ที่ใช้เพื่อประโยชน์ในการประกอบกิจการค้าหรือธุรกิจ ที่มีพื้นที่สำหรับประกอบกิจการตั้งแต่ 300 ตร.ม. ขึ้นไป
  • อาคารสำหรับใช้เพื่อกิจการพาณิชยกรรมประเภทค้าปลีกค้าส่ง ที่มีพื้นที่สำหรับประกอบกิจการตั้งแต่ 300 ตร.ม. ขึ้นไป
  • อาคารสำหรับใช้เป็นหอประชุม ที่ใช้เป็นที่ชุมนุมหรือประชุม ที่มีพื้นที่ 300 ตร.ม. ขึ้นไป
  • อาคารสำนักงานหรือที่ทำการ ที่มีพื้นที่ตั้งแต่ 300 ตร.ม. ขึ้นไป
  • อาคารสำหรับใช้เพื่อกิจการอุตสาหกรรม ที่ใช้เป็นโรงงานตามกฎหมายว่าด้วยโรงงาน
  • อาคารสำหรับใช้เพื่อกิจการการศึกษา ที่ใช้เป็นสถานศึกษาตามกฎหมายว่าด้วยการศึกษาแห่งชาติ
  • อาคารสำหรับใช้เป็นหอพัก ที่ใช้เป็นหอพักตามกฎหมายว่าด้วยหอพักที่มีลักษณะเป็นอาคารขนาดใหญ่ ได้แก่ อาคารที่มีพื้นที่รวมกันทุกชั้นหรือชั้นหนึ่งชั้นใดในหลังเดียวกันเกิน 2,000 ตร.ม. หรืออาคารที่มีความสูงตั้งแต่ 15 เมตรขั้นไป และมีพื้นที่รวมกันทุกชั้นหรือชั้นหนึ่งชั้นใดในหลังเดียวกันเกิน 1,000 ตร.ม. แต่ไม่เกิน 2,000 ตร.ม.
  • อาคารสำหรับใช้เป็นอาคารอยู่อาศัยรวม ที่มีลักษณะเป็นอาคารขนาดใหญ่ ได้แก่ อาคารที่มีพื้นที่รวมกันทุกชั้นหรือชั้นหนึ่งชั้นใดในหลังเดียวกันเกิน 2,000 ตร.ม. หรืออาคารที่มีความสูงตั้งแต่ 15 เมตรขั้นไป และมีพื้นที่รวมกันทุกชั้นหรือชั้นหนึ่งชั้นใดในหลังเดียวกันเกิน 1,000 ตร.ม. แต่ไม่เกิน 2,000 ตร.ม.
  • อาคารสำหรับใช้เก็บวัตถุอันตราย ที่ใช้เก็บวัตถุอันตรายตามกฎหมายว่าด้วยวัตถุอันตราย

การคำนวณพื้นที่ตามกฎกระทรวงกำหนดอาคารประเภทควบคุมการใช้ พ.ศ.2552 ให้นำพื้นที่ทางเดิน ห้องน้ำ ห้องส้วม หรือพื้นที่ที่เกี่ยวเนื่องกับกิจการและอยู่ภายในอาคารนั้นมารวมคำนวณด้วย

ดังนั้นถ้าอาคารที่ได้รับใบอนุญาตก่อสร้าง ดัดแปลง หรือเคลื่อนย้ายอาคาร หรือแจ้งตามมาตรา 39ทวิ เป็นอาคารประเภทควบคุมการใช้ ผู้ได้รับใบอนุญาตก่อสร้างหรือแจ้งตามมาตรา 39ทวิ ต้องแจ้งเป็นหนังสือต่อเจ้าพนักงานท้องถิ่นให้ดำเนินการตรวจสอบและออกใบรับรองเพื่อให้เข้าใช้อาคารนั้นได้ หากผู้ได้รับใบอนุญาตหรือแจ้งตามมาตรา 39ทวิ ไม่แจ้งต่อเจ้าพนักงานท้องถิ่นและยินยอมให้บุคคลหนึ่งคนใดใช้อาคารเพื่อกิจการตามได้รับใบอนุญาตหรือแจ้งตามมาตรา 39ทวิ ก่อนได้ใบรับรองจากเจ้าพนักงานท้องถิ่น ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 เดือน หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และยังต้องระวางโทษปรับอีกวันละไม่เกิน 10,000 บาท ตลอดระยะเวลาที่ยังฝ่าฝืนหรือจนกว่าจะได้ปฏิบัติให้ถูกต้อง